อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อแบบเฉียบพลัน หมายถึง ความเจ็บปวดหรือไม่สบายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ หน้าอก ช่องท้อง หลัง แขน และขา โดยเฉพาะข้อต่อ เช่น ไหล่ ข้อศอก ข้อมือ นิ้วมือ เข่า และข้อเท้า อาการนี้มักถูกเรียกง่ายๆ ว่า “ปวดเมื่อยตามตัว”
สาเหตุของอาการปวดดังกล่าวอาจเกิดจากการบาดเจ็บ การออกแรงหรือเล่นกีฬาหนัก ท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรือโรคทางการแพทย์บางอย่าง เช่น การติดเชื้อ กล้ามเนื้ออักเสบ หรือโรคข้ออักเสบ อาการที่พบบ่อยคือ ปวด ข้อแข็ง และเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง
การวินิจฉัยโรคมักอาศัยประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกายโดยผู้เชี่ยวชาญ บางกรณีอาจต้องใช้การตรวจเลือดหรือการถ่ายภาพรังสี (เช่น เอ็กซ์เรย์) เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำยิ่งขึ้น
การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ โดยทั่วไปจะใช้การพักผ่อน การทำกายภาพบำบัด ยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา การประคบอุ่น และการนวดเบาๆ การป้องกันที่ดีควรเริ่มจากการปรับท่าทางให้ถูกต้องก่อนทำงาน การอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย และรักษาสุขอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและข้อ
ส่วนใหญ่แล้ว อาการปวดเฉียบพลันจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน แต่อย่างไรก็ตาม หากมีสาเหตุที่ซับซ้อนหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการอาจยืดเยื้อหรือพัฒนาเป็นอาการปวดเรื้อรังได้
อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อแบบเฉียบพลันเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปและสามารถเกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต โดยมีสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
อาการปวดเฉียบพลันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่หลังส่วนบน/ล่าง เข่า ข้อมือ นิ้ว
ข้อศอก หรือข้อเท้ามักจะดีขึ้นภายในไม่กี่วันเมื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
วิธีบรรเทาอาการมีดังนี้
หากสนใจให้เราติดต่อกับเพื่อพูดคุยเพิ่มเติมหรือนัดหมายการตรวจร่างกาย
สามารถส่งข้อมูลมาได้เลย
การออกกำลังกายบำบัดช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของข้อต่อได้จริง โดยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อรอบข้อต่อ ลดอาการปวดและการอักเสบ รวมถึงป้องกันการเสื่อมสภาพ แต่ต้องออกกำลังกายอย่างถูกวิธี มีการอบอุ่นร่างกายก่อน หลีกเลี่ยงท่าทำให้เจ็บ และพักผ่อนเพียงพอ พร้อมคำแนะนำจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยการออกกำลังกายในน้ำก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้มีปัญหาข้อต่อเนื่องจากแรงลอยตัวช่วยลดแรงกดทับและแรงกระแทก.
การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อไม่จำเป็นต้องหยุดออกกำลังกายทั้งหมดในทันที แต่ควรพักและลดการใช้งานกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บในช่วงแรกประมาณ 48 ชั่วโมง เช่น การประคบเย็น หลังจากนั้นสามารถเริ่มทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินหรือยืดกล้ามเนื้ออย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อช่วยฟื้นฟูและเพิ่มความยืดหยุ่น การออกกำลังกายบำบัดที่เหมาะสมและคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัดจะช่วยเสริมความแข็งแรงและป้องกันบาดเจ็บซ้ำ สรุปคือพักกล้ามเนื้อในช่วงแรก เริ่มออกกำลังกายเบา ๆ เมื่ออาการดีขึ้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อฟื้นฟูอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การออกกำลังกายเมื่อปวดข้อเข่าไม่ทำให้อาการเลวร้ายลง หากเลือกวิธีที่เหมาะสม เช่น เลือกกิจกรรมแรงกระแทกต่ำอย่างว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกายในน้ำ พร้อมเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า วอร์มอัพและยืดเหยียดก่อนหลังออกกำลังกาย เพื่อช่วยพยุงข้อและลดแรงกดทับ แต่หากปวดหรือบวมมากขึ้นควรหยุดและปรึกษาแพทย์หรือกายภาพบำบัด การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีช่วยลดความเสี่ยงข้อเข่าเสื่อมและส่งเสริมการทำงานของข้อในระยะยาวได้
39 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10120
เดินประมาณ 7 นาทีจาก BTS พระโขนง ทางออก 3
วันจันทร์
Closed
วันอังคาร – วันศุกร์
10.00-20.00
วันเสาร์ – วันอาทิตย์
10.00-19.00
ที่อยู่ :
39 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10120
เบอร์โทร :
092-741-2239
E-mail :
powerpodfitness@gmail.com
คุณอาจจะลองมาหลายวิธีการรักษาแล้ว แต่ไม่ได้ผล บางที Powerpod Wellness Club อาจเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ
โทรหาเรา
+66927412239
ข้อความ (Messenger)
Powerpod Fitness
ไลน์ (Line)
@powerpodfitness
อีเมล
powerpodfitness@gmail.com
เพราะสุขภาพดี เริ่มได้ที่นี่
เรารวมทุกศาสตร์การฟื้นฟูและออกกำลังกายไว้ในที่เดียว
ออกแบบโปรแกรมเฉพาะคุณ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อให้คุณแข็งแรงจากภายใน สดใสจากภายนอก
และพร้อมใช้ชีวิตในทุกช่วงวัยอย่างมั่นใจ
2025 Powerpod Wellness all rights reserved